กฎหมายแรงงาน 2562 สำหรับคนที่ถูกเลิกจ้าง

กฎหมายแรงงาน 2562 สำหรับคนที่ถูกเลิกจ้าง

สถานการณ์ในปี 2019 พบว่ามีผู้ถูกเลิกจ้างสูงขึ้น โดยมีการเลิกจ้างแล้วมากกว่า 7.9 หมื่นคน ซึ่งผลจากตรงนี้ทำให้นายจ้างต้องจ่ายชดเชย ตามกฎหมายผู้มีอายุงานเกิน 20 ปี จะได้รับค่าชดเชยเพิ่มวันล่ะ 400 วัน อีกทั้งยังต้องได้รับกองทุนสงเคราะห์

ผู้ถูกเลิกจ้าง จะต้องได้รับเงินค่าชดเชย

กระทรวงแรงงาน ออกมาเผยข้อมูลในวันที่ 3 กันยายน ได้กล่าวถึงเรื่องราวของการเลิกจ้างว่า ยังไม่ค่อยน่าเป็นห่วงหลังจากมีกระแสข่าวในแง่ไม่ดีนักแพร่สะพัดออกไปว่า เงินกองทุนที่มีอยู่ ณ ขณะนี้อาจไม่เพียงพอจะการช่วยเหลือลูกจ้าง ซึ่งถูกเลิกจ้างมากขึ้น และในวันนี้ทางกระทรวงแรงงานออกมาขอยืนยันหนักแน่นว่า ทางด้านกองทุนเกิดสภาพคล่อง รวมทั้งพร้อมช่วยเหลือลูกจ้างอย่างเต็มที่ โดยมีเงินทุนหมุนเวียนมากกว่า 400 ล้านบาท นอกจากนี้การถูกเลิกจ้างอาจมีเหตุผลส่วนหนึ่งซึ่งมาจากผลกระทบทางด้านสภาพเศรษฐกิจ ตลอดจนมาจากความผันผวนทางเศรษฐกิจของโลก ทำให้สถานประกอบกิจการได้มีการปรับธุรกิจเพื่อให้อยู่ต่อไปได้

ข้อมูลผู้ตกงานในปี 2017

จากข้อมูลการขึ้นทะเบียนของผู้ว่างงาน ในช่วงเดือน มกราคม – ธันวาคม 2017 พบว่ามีประชาชนเข้ามาลงทะเบียนว่างงานเดือนละ 72,000 คน ส่วนในปี 2019 ตั้งแต่ต้นปีจนกระทั่งถึงเดือนสิงหาคม มีการขึ้นทะเบียนว่างงาน เดือนละ 79,000 คนคิดเป็น 60 % โดยเป็นการเลิกจ้าง ส่วนจำนวนอีก 40 % ขอลาออกเอง สำหรับลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง ก็จะได้รับค่าชดเชยจากนายจ้างตามอายุงาน อีกทั้งยังได้รับเงินทดแทนถ้าเป็นบุคคลว่างงานจากกองทุนประกันสังคม โดยนายจ้างส่วนใหญ่ก็จะจ่ายเงินชดเชยให้ หรือบางแห่งจ่ายเป็นเงินน้ำใจสูงกว่าที่กำหนดด้วยซ้ำ เพราะอยากช่วยเหลือลูกจ้าง

พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฉบับใหม่ ปรับขึ้นเป็น 400 วัน !

พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฉบับ 2019 เพิ่มค่าชดเชยให้ลูกจ้างที่ทำงานนานกว่า 20 ปี พร้อมปรับวันจากเดิม 300 วัน เป็น 400 วัน ทำให้ลูกจ้างใช้ชีวิตต่อไปได้ในระยะหนึ่ง โดยลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง สามารถติดต่อขอรับเงินช่วยเหลือได้ซึ่งจะได้รับเงินช่วยเหลือตามอายุงาน เช่น

  • ทำงาน 120 วัน แต่ไม่ครบ 3 ปี ได้รับเงิน 30 เท่า
  • ทำงาน 3 ปีขึ้นไปหากแต่ไม่เกิน 10 ปี ได้รับเงิน 50 เท่า เป็นต้น

หลังจากนั้นเมื่อทางกองทุนฯมอบเงินช่วยเหลือให้แก่ลูกจ้างแล้ว ก็จะไปเก็บเงินส่วนนี้จากนายจ้าง

ถูกเลิกจ้างเพราะเครื่องจักร

กรณีที่นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างอันเนื่องมากจากการปรับปรุงในด้านต่างๆ รวมทั้งจากการนำอุปกรณ์ทันสมัยมาใช้ อันเป็นเหตุทำให้ต้องลดจำนวนพนักงานลง นายจ้างจะต้องกระทำดังนี้…

  • แจ้งวัน/เดือน/ปี ที่จะให้ลูกจ้างออก พร้อมบอกเหตุผลว่าเหตุใดทำไมถึงให้ออก รวมทั้งรายชื่อของพนักงานที่จะถูกเลิกจ้าง โดยให้ลูกจ้างและพนักงานแรงงาน ได้รับรู้ล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 60 วันก่อนวันที่จะถึงวันเลิกจ้าง
  • กรณีที่นายจ้างไม่แจ้งแก่ลูกจ้างให้รับรู้ล่วงหน้า หรือ รับรู้แล้วหากแต่เวลาน้อยกว่า 60 วัน นายจ้างจะต้องจ่ายค่าชดเชยพิเศษ เพื่อเป็นการทดแทนเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 60 วัน ในส่วนของลูกจ้างที่ได้รับค่าจ้างตามผลงานด้วยการคำนวณเป็นหน่วย

กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ช่วยเหลือประชาชน

สำหรับกองทุนช่วยเหลือลูกจ้างของประเทศไทยนี้ จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ. พ.ศ. 2541 ต่อมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 ในปี พ.ศ. 2561 มีลูกจ้างติดต่อขอรับเงินช่วยเหลือ เป็นจำนวนเงิน 12 ล้านบาท ส่วนปี พ.ศ. 2562 เงินถูกใช้ไปประมาณ 14 ล้านบาท

เพียงเท่านี้ลูกจ้างทั้งหลายก็คงจะสบายใจมากขึ้นแล้ว ว่าอย่างน้อยถึงจะออกจากงานหากแต่ก็ยังมีเงินตรงนี้เข้ามาช่วย ในยามที่หางานใหม่ไม่ได้ ซึ่งเงินจำนวนนี้ลูกจ้างก็อย่าลืมไถ่ถามสิทธิ์ของตัวเอง เพื่อจะได้มีเงินดำรงชีพและเป็นสิทธิ์ที่คนทำงานทุกคนควรจะได้รับอย่างเท่าเทียมอย่างถ้วนหน้านั่นเอง